EP1 สูตรธรรมชาติ นั่น โน่น นี่ ทำไมไม่ค่อยเห็นผลเลยล่ะคะ by หมอกระติ๊บ


หลายคนคงเคยบำรุงผิว ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ด้วยสูตรธรรมชาติสูตรต่างๆ ที่เหล่ากูรูความงามส่งต่อผ่านกันรุ่นต่อรุ่นตั้งแต่สมัยเมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก จนถึงยุคไฮสปีดไซเบอร์อย่างปัจจุบัน สูตรที่หมอเห็นว่าฮิตติดดาวมีหลายสูตร โดยแชร์กันทั้งจากปากต่อปากถึงโลกไซเบอร์ สารพัดสูตรทั้งผัก ผลไม้ ของใช้ในบ้านอย่าง มะนาว น้ำผึ้ง ไข่ หัวไชเท้า ขนกันมาแทบจะหมดตู้เย็น!
อันที่จริงแล้วยังมีอีกมากจนจาระไนไม่หมด สูตรต่างๆ ที่สาวๆต่างลองผิดลองถูก จนบางคนก็ได้ผลหน้าใสปิ๊งๆ แต่บางคนใช้แล้วไม่ได้ผล หรือที่แย่ไปกว่านั้นคือหน้าเน่ายิ่งกว่าเดิม! วันนี้หมอกระติ๊บจะมาเล่าว่าสูตรธรรมชาติเหล่านั้นทำไมบางคนใช้แล้วหน้าใสบางคนใช้แล้วก็งั้นๆ
สารพัดสูตรดังที่กล่าวหลักๆ คือ สูตรพวกผลไม้รสเปรี้ยวต่างๆ เช่น มะนาว มะขาม ซึ่งจะมีกรดผลไม้ตามธรรมชาติหรือที่เราเคยได้ยินกันว่า AHA (AIpha Hydroxyacid) ซึ่งมีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิว ช่วยให้เซลล์ผิวหนังกำพร้าที่เสื่อมสภาพและตายแล้วหลุดลอกได้ง่ายขึ้น จึงทำให้ผิวดูขาวและกระจ่างใสขึ้น เอาเป็นว่าข้อมูลทางเทคนิคเกี่ยวกับ AHA ยังมีอีกมาก เพราะมีการนำมาใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางและทรีตเมนต์ในการ Peeling (ผลัดเซลล์ผิว) ที่ใช้ในคลินิกเสริมความงามต่างๆ แต่รายละเอียดค่อนข้างยาว จึงขอพูดถึงสูตรธรรมชาติแล้วกันค่ะ อย่างพวกแตงกวา ว่านหางจระเข้ มักให้ผลทาง Moisturizer ให้กับผิวเมื่อใช้แล้วผิวจึงอิ่มน้ำเด้งดึ๋ง
ส่วนผลลัพธ์จากการใช้สูตรตามธรรมชาติมักไม่เสถียรหรือเห็นผลต่างกันในแต่ละบุคคลนั้น เนื่องจากผิวและใบหน้าของแต่ละคนต่างกัน อีกทั้งสูตรต่างๆ ไม่ได้มีคนวิจัยออกมาว่ามะนาว 1 ผล เท่ากับ AHA กี่เปอร์เซ็นต์ ผลลัพธ์จึงแตกต่างกันในแต่ละคน บางคนผิวหนาเป็นหนังช้าง แต่งกมะนาว โดยใช้มะนาวเหยาะผสมกับนู่นนี่นั่นโน่นสารพัดสูตร จนน้ำมะนาวหรือน้ำมะขามเจือจางไปมาก ทำให้การผลัดเซลล์ผิวของ AHA ได้ผลไม่เต็มที่ บางคนผิวบอบบาง แต่ใช้มะนาวคั้นสดหลายลูก หรือนำหัวไชเท้า กระเทียมมาหั่นเป็นแว่นแล้วพอกกันเพียวๆ ข้ามคืน พอตื่นมาจึงทำให้แสบหน้า และมีอาการแดงๆ ลอกๆ บางคนถึงกับหน้าไหม้ไปเลยก็มี
ดังนั้น สูตรธรรมชาติจริงๆ นั้นใช้ได้ แต่กรุณาอย่ามั่วอย่ามโนเองว่ามันควรจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ อยากหน้าใสก็ต้องไตร่ตรองให้ดี ควรจะหาสูตรที่หลายๆ คนลองแล้วได้ผลในอัตราส่วนตามมาตรฐาน เพราะคนที่เคราะห์ร้ายหน้าเน่าอาจจะเป็นเราแทน ดังนั้น จะดีหรือไม่ดี จะใสหรือจะเน่า ธรรมชาติเป็นคนตัดสิน บางคนใช้แล้วอาจจะหน้าใส เราใช้อาจจะหน้าเน่าก็ได้ดังนั้น หมอกระติ๊บแนะนำเพื่อความปลอดภัยว่าก่อนที่เราจะใช้อะไรเราควรจะทดสอบก่อน หลักง่ายๆ ที่ใช้กันมานาน คือ การนำมาทาที่ท้องแขนเป็นบริเวณเล็กๆ ก่อนสักพัก ถ้าผ่านค่อยลองนำมาทาหน้าครั้งแรกให้ใช้น้อยๆ ก่อนแล้วค่อยเพิ่มปริมาณเพื่อความปลอดภัยของใบหน้า เตือนแล้วนะว่าอย่ามโน ถ้าหน้าเน่าขึ้นมาก็รับผิดชอบตัวเองนะจ๊ะ!
มีเรื่องเล่าจากน้องคนหนึ่งที่เคยหน้าเน่าจากสูตรธรรมชาติ คือ หมอกระติ้บคะ หนูอยากปรึกษาค่ะ คือใบหน้าหนูมีกระที่โหนกแก้มค่ะ พอดีตอนนี้หนูเห็นสูตรที่โด่งดังมากในเว็บชื่อดังที่เขากำลังฮิตกันมากเลยค่ะ เขาบอกให้เอาหัวไชเท้าหรือกระเทียมมาฝานบางๆ หรือสับละเอียดแล้วมาพอกที่จุดด่างดำ เขาทำกันมาหลายคนแล้วหายค่ะ!! กระหาย ฝ้าจางลง ดีกว่าไปทำเลเซอร์อีกค่ะ ของดี ราคาถูกมีจริงค่ะ หนูแทบกรี๊ด ถูกและดี ถูกและดี กรี๊ดดด หนูเลยสนใจมากค่ะ คิดว่าต้องหาโอกาสลองทำ เพราะจะได้หน้าใส กระหาย พอดีวันหนึ่งคุณแม่ไม่อยู่บ้าน หนูเลยจัดการค่ะ ค้นหาวัตถุดิบในตู้เย็นที่บ้าน สรุปเจอค่ะ หัวไชเท้าค่ะ สงสัยแม่หนูจะเตรียมไว้ต้มกระดูกหมูพรุ่งนี้ แต่หนูแอบเอามาใช้สักครึ่งหัว คุณแม่คงจับไม่ได้มั้งคะ (จะเข้าประเด็นหรือยังลูกก!!) ได้ค่ะ หนูจะรวบรัดแล้วนะคะ เพื่อไม่ให้หมอรำคาญค่ะ หนูได้หัวไชเท้ามาแล้วก็จัดการสับละเอียดแล้วพอกที่โหนกแก้ม ตอนแรกคันยิกๆ แต่อีกแป๊บ โอ้แสบหน้ามากก ยังกะโดนน้ำกรดสาด แต่อยากสวยต้องอดทนค่ะจากนั้นก็ข่มตานอนเลยแล้วท่องนโมไว้เลย คิดว่าตื่นเช้ามาหน้าหนูต้องใสปิ้ง กระ ฝ้าหายไปแน่ๆ หนูมั่นใจ!
แต่พอตื่นมาหนูแทบกรี๊ดค่ะ พอเอาหัวไชเท้าออกจากหน้า ปรากฏว่าแก้มหนูทั้งสองข้างมันแดงมากแล้วก็ลอก
แสบมากด้วยค่ะเหมือนหมูโดนน้ำร้อนลวกเลย หนูจะทำยังไงดี กรี๊ด…หน้าหนูจะหายไหมคะ คุณหมอช่วยหนูด้วยนะคะ!
หมอขอสรุปนะคะ เรื่องที่น้องหนูพบเจอมาไม่ใช่เรื่องใหม่เลยค่ะ มีคนใช้หัวไชเท้าหรือกระเทียมแล้วหน้าไหม้
จำนวนมากค่ะเริ่มจากวิธีของหนูก่อนนะคะ หมอว่าหนูน่าจะอ่านสูตรมาไม่เกิน 7 บรรทัดแล้วรีบร้อนกลับมาทำจ้ะ ซึ่งบรรทัด ที่ 8 มันเป็นไคลแมกซ์พอดี หนูคงอ่านไม่ถึงตรงนั้น ก็โทษใครไม่ได้นะคะ เท่าที่ดูสูตรหัวไชเท้ามาคร่าวๆ เขาให้แปะแค่ 10-15 นาทีไม่ใช่แปะข้ามคืน!!! ที่สำคัญเวลาที่เรารู้สึกแสบจนผิดปกติ เราควรจะเริ่มเอะใจว่ามันไม่ใช่แล้ว มันไม่น่าจะเป็นอย่างนี้สิ หมอจะบอกว่า คำว่าอยากสวยต้องอดทนมันก็ไม่ได้ใช้ได้กับทุกกรณีนะคะ เมื่อหนูรู้ว่ามันแสบเกินปกติ หนูควรที่จะพอกมันข้ามคืนไหม อาการที่เกิดขึ้นกับผิวหนูมันคือการไหม้ของผิวหรือการเบิร์นที่เกิดจากกรดในหัวไชเท้ามันกัดลอกผิวหน้า เนื่องจากใช้ในปริมาณมากและการสัมผัสกับผิวหน้าที่นานจนเกินไป
ตอนนี้หมอว่าทางที่ดีที่สุดหนูควรจะไปพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์ประเมินว่าผิวหนังมีการอักเสบและไหม้ระดับไหน เพื่อที่จะได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีนะคะ แล้วคราวหน้าคราวหลังควรจะอ่านให้ครบทุกประโยคเวลาได้สูตรอะไรมาว่าเขาใช้อย่างไร และอย่าลืมทดสอบที่ท้องแขนก่อนเบาๆ นะจ๊ะ ถ้ามันแสบเวอร์ ก็ไม่ต้องยึดมั่นในคำว่าอยากสวยต้องอดทนค่ะ เพราะถ้าแก้ไขแต่เนิ่นๆ หน้าหนูอาจจะแค่แสบๆ แดงๆ แต่ไม่ได้อักเสบหรือหน้าไหม้มากขนาดนี้
ป.ล. ได้โปรดอย่าเชื่อคุณแม่ที่บอกว่าเวลาโดนอะไรไหม้แล้วให้เอายาสีฟันทา เพราะหน้าหนูอาจจะแสบและเน่ามากกว่าเดิม ด้วยความเป็นห่วงจากหมอกระติ๊บ
ถามมา ตอบไป by หมอกระติ๊บ


Q: ปู่ ย่า ตา ยาย บอกว่าขัดตัวด้วยมะขามเปียกจะขาว สูตรนี้พอได้ไหมคะ อันตรายไหม
A: อย่างที่เล่าให้ฟังว่าจะอันตรายหรือไม่อันตรายไม่ใช่ว่าเอาอะไรมาใช้อย่างเดียว แต่อยู่ที่วิธีการใช้ด้วย ดังนั้น การใช้มะขามเปียกขัดตัวสามารถใช้ได้ค่ะ และเห็นผลในเรื่องการผลัดเซลล์ผิว ดังนั้น ผิวจะดูขาวใสขึ้น แต่ข้อควรระวังคือไม่ใช้ใน
ปริมาณที่เข้มข้น หรือขัดแรงมากเกินไปจนผิวเกิดการระคายเคือง ที่สำคัญไม่ใช่อยากขาวมากจนขัดทุกวัน มันบ่อยเกินไป และรบกวนผิวมากเกินไป แบบนี้ก็ไม่ไหวจ้ะ และอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ค่ะ
Q: แล้วมีสูตรไหนบ้างไหมคะที่คุณหมอเห็นว่าอันตรายน้อยและมีประโยชน์มากที่สุด
A: อันนี้บอกไม่ได้เลยค่ะ เพราะไม่เคยลองสูตรไหนเป็นสูตรไหนไม่ได้เหมาะกับทุกคนและทุกสูตร ดังนั้น ต้องลองเอง อย่างที่บอกว่าเราอาจจะมโนเอง สูตรที่คนทำกันเยอะน่าจะเห็นผลดีและผลข้างเคียงรับได้ แต่ก่อนจะใช้ให้ลองบริเวณเล็กๆ ก่อน เพราะถ้ามันแหก มันจะได้ไม่แหกมากค่ะ
Q: หากเกิดการอักเสบที่หน้าหรือมีผื่นขึ้น ผิวไหม้ไปแล้ว แก้ไขเฉพาะหน้าอย่างไรดี
A: วิธีที่ดีที่สุดคือไปพบแพทย์ เพื่อช่วยวินิจฉัยอาการไหม้หรือการแพ้ค่ะ แต่ถ้าแก้ปัญหาเฉพาะหน้า คือการใช้น้ำสะอาดปล่อยผ่านบริเวณที่โดนสารโดยล้างจนหมดสารมากที่สุด จากนั้นใช้วุ้นว่านหางจระเข้โปะบริเวณผิวหนังที่มีอาการแดงร้อนหรือไหม้ ก็จะช่วยชะลอและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ จากนั้นควรรีบไปปรึกษาแพทย์ค่ะ
